ชงโค
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Bauhinia purpurea L.
ชื่อวงศ์ : LEGUMINOSAE-CAESALPINIOIDEAE
ชื่อสามัญ : Purple Orchid Tree, Hong Kong Orchid Tree, Purple Bauhinia
ชื่อพื้นเมืองอื่นๆ : เสี้ยวเลื่อย (ภาคใต้) , เสี้ยวดอกแดง (ภาคเหนือ) , เสี้ยวหวาน (แม่ฮ่องสอน)กะเฮอ สะเปซี (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)
สภาพนิเวศวิทยา : เจริญเติบโตได้ดีในที่อากาศเย็น
เวลาออกดอก : ออกดอกตลอดปี
เวลาติดผล: ลักษณะเป็นฝักแบนคล้ายฝักถั่ว แก่ประมาณเดือนกันยายน-ธันวาคม ขนาดกว้างราว ๑.๕ เซนติเมตร ยาว ๑๕-๒o เซนติเมตร เมล็ดค่อนข้างแบน ฝักแก่จะแตกออกเป็นสองซีกตามความยาวของฝัก
การขยายพันธุ์ : การตอนกิ่ง เพาะเมล็ด
การใช้ประโยชน์ทั่วไป : เปลือกต้น : แก้ท้องเสีย แก้บิด
ดอก : แก้พิษไข้ร้อนจากเลือดและน้ำดี เป็นยาระบาย
ใบ : ฟอกฝี แผล
ราก : ขับลม
ประวัติพันธุ์ไม้(การนำเข้ามาปลูกในไทย) : ในประเทศไทยพบขึ้นปะปนอยู่กับต้นไม้ชนิดอื่นๆ ในป่าโปร่งผสม และป่าเบญจพรรณ ทางภาคเหนือและภาคกลางจะพบมากกว่าภาคอื่น คนไทยรู้จักชงโคมาตั้งแต่อพยพมาอยู่พื้นที่ประเทศ ไทยปัจจุบัน ชื่อชงโคมีปรากฏอยู่ในวรรณคดีไทย สมัยอยุธยาเป็นต้นมาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ในหนังสืออักขราภิธานศรับท์ พ.ศ. ๒๔๑๖ อธิบายเกี่ยวกับชงโคไว้ว่า”ชงโค เป็นชื่อต้นไม้อย่างหนึ่งเหมือนอย่างต้นกาหลง แต่สีมันแดง” แสดงว่าคนไทยกรุงเทพฯ สมัย ๑๓๒ ปีก่อนโน้น รู้จักทั้งกาหลงและชงโคเป็นอย่างดี ว่ามีลักษณะคล้ายคลึงกัน ต่างกันที่สีของดอกเท่านั้น เพราะกาหลงมีกลีบดอกสีขาว ส่วนชงโคกลีบดอกออกไปทางสีแดง (ชมพู-ม่วง) ชื่อที่เรียกกันในเมืองไทยคือ ชงโค
เอกสารอ้างอิง : http://www.the-than.com/FLower/Fl-1/24/24.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น